๒๐ กันยายน ๒๕๖๗

โครงการที่ดินของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (ศูนย์ศึกษาพันธุ์ไม้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ)

บ้านท่ากระทุ่ม – บ้านสาระเห็ด ตำบลกลัดหลวง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี


ที่มาของการต่อยอดโครงการ :

เมื่อเดือน กรกฎาคม ๒๕๓๒ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จแปรพระราชฐาน ประทับแรม ณ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทรงมีพระราชดำริฯ ที่จะจัดซื้อที่ดินสำหรับพระราชทานให้กับสมาชิกศิลปาชีพในพระองค์ฯที่มีความขยันหมั่นเพียร และยังปรารภถึงชาวต่างชาติที่เข้ามากว้านซื้อที่ดินภายในประเทศไทยไปมากมาย, การตัดไม้ ซึ่งจะทำให้สภาพป่าหมดไป, การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงทรงรับสั่งให้ พันเอกพิศาล วัฒนวงศ์คีรี ซึ่งเป็นนายทหารเสริมกำลังพิเศษ ร่วมกับ พันโทรณยุทธ ฤทธิฦาชัยผู้บังคับกองพันทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ ขณะนั้น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักราชเลขาธิการ จัดซื้อที่ดิน จำนวน ๒ แปลงเรียบร้อยแล้วเมื่อปลายปี ๒๕๓๒ รวมเนื้อที่ ๘๒๖ ไร่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บ้าน ท่ากระทุ่ม – บ้านสาระเห็ด ตำบลกลัดหลวง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากถนนเพชรเกษม ตามเส้นทาง ๓๕ กิโลเมตร และ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ ได้รับมอบภารกิจจาก กองพลที่ ๑ รักษาพระองค์ ให้ดูแลที่ดินดังกล่าว ตามคำร้องของสำนักราชเลขาธิการ โดย กองพันทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ได้จัดกำลังพลเข้าตรวจสภาพพื้นที่และดูแลที่ดินสัปดาห์ละ ๑ ครั้ง อย่างต่อเนื่อง เมื่อมิถุนายน ๒๕๓๓ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จแปรพระราชฐาน ประทับแรม ณ วังไกลกังวล ได้มีพระราชเสาวนีย์ให้ ท่านผู้หญิง สุวลี เทพาคำ และ ท่านผู้หญิง สุประภาดา เกษมสันต์ ราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้เข้าตรวจพื้นที่ทั้ง ๒ แปลง เมื่อวันที่ ๒๗ – ๒๘ มิถุนายน ๒๕๓๓ โดยมี พันโทดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ ขณะนั้นเป็นผู้นำตรวจ จากการตรวจสภาพพื้นที่โดยทั่วไป ทั้งทาง เฮลิคอปเตอร์ และทางพื้นดินโดยรถยนต์ ในพื้นที่ดินทั้ง ๒ แปลง ได้พบร่องรอยการบุกรุก และการขุดต้นไม้ออกไปขายหลายแห่ง / ต้นไม้เดิมได้ถูกทำลาย ท่านผู้หญิง สุประภาดาเกษมสันต์ จึงขอให้ กรมทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ ได้จัดกำลังพล เป็นชุดปฏิบัติการ เข้าอยู่ประจำในพื้นที่ดินฯ เพื่อควบคุม ดูแล และป้องกันราษฎรบุกรุกที่ดิน/ทำลายต้นไม้ ซึ่ง กรมทหาร ราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ ได้จัดกำลังพล ๑ ชุดปฏิบัติการเข้าอยู่ประจำในพื้นที่โครงการฯ ตั้งแต่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๓๓ เป็นต้นไปและได้นำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อทรงทราบต่อไป

เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๓๓ เวลา ๒๐.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชเสาวนีย์ กับ พันโทดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ผู้บังคับกองพันทหารราบ ที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ ขณะนั้น ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล แสดงความห่วงใย ที่ราษฎรได้บุกรุกที่ดิน และเข้ามาขุดต้นไม้ออกไป ซึ่งจะทำให้สภาพป่าหมดไป และทรงขอบใจ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ ในการจัดกำลังทหารเข้าไปดูแลและขอให้ดูแลราษฎรบ้านดอนขุนห้วยควบคู่ไปด้วย และมีกระแสรับสั่งให้ ท่านผู้หญิง สุประภาดา เกษมสันต์ ดำเนินการเรื่อง การนำทหารเข้าไปดูแลที่ดินให้ถูกต้อง

ตามระเบียบของทางราชการ ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงรับสั่งว่า หากจะปลูกป่าต้องมีคนเฝ้า เมื่อ กรกฎาคม ๒๕๓๓ ก่อนเสด็จแปร พระราชฐานกลับจากวังไกลกังวลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชเสาวนีย์โปรดเกล้าฯ ให้ปลูกต้นไม้ในที่ดินของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ บ้านท่ากระทุ่ม จำนวน ๒ แปลง โดยปลูกต้นไม้รอบ แปลงเพื่อแสดงขอบเขตและปลูกต้นไม้ในแปลงย่อย เพื่อจัดทำเป็นสวนป่าตัวอย่างในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งประกอบด้วย ต้นยูคาลิปตัส/ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ/ไม้เรียกนก และไม้โตเร็ว ที่เนื้อไม้สามารถใช้งานได้ดี เพื่อเป็นไม้สำหรับสร้าง และซ่อมแซมบ้านเรือน ในโอกาสต่อไป

เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๓๕ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสด็จแปรพระราชฐานประทับแรม ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน และทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ รับที่ดิน ซึ่งคุณ ปิ่นทอง ศาลยาชีวิน และคุณ สุรชัยกิจบำรุง มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และมีจิตศรัทธาในพระราชกรณียกิจของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมทุกพื้นที่ และ เนื่องในวโรกาสที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ จึงมีจิตศรัทธาที่จะน้อมเกล้าฯ ถวายที่ดิน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลกลัดหลวง อำเภอ ท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เพื่อให้เป็นในนาม มูลนิธิส่งเสริม ศิลปาชีพฯ จำนวนพื้นที่ ๕๓๑ ไร่ ซึ่ง กรมทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ ได้ร่วมกับ อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ดำเนินการโอนที่ดินให้เป็นในนามของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เรียบร้อย แล้วเมื่อ ๓ สิงหาคม ๒๕๓๕ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ กรมทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ ซึ่งเป็นหน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และรับผิดชอบดูแลที่ดินของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เดิมจำนวน ๒ แปลงอยู่แล้ว ให้รับผิดชอบดูแลที่ดินเพิ่มเติมในแปลง ที่ ๓ ด้วย รวมเนื้อที่ทั้งสิ้น ๑,๓๕๘ ไร่ ปี พ.ศ.๒๕๕๐ กรมทหารราบที่ ๓ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ ได้ดำเนินการติดต่อพูดคุยกับเจ้าของที่ดินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าของที่ดิน ได้แก่ บริษัทบุญเกรียงไกร ๓๓ ได้รำลึกถึงพระราชกรณียกิจ ของพระองค์ท่านที่มีต่อปวงชนชาวไทย จึงได้น้อมเกล้าถวายที่ดินเพิ่มเติม จำนวน ๑๓ ไร่ เพื่อถวายเป็นราชสักการะ เนื่องในวโรกาส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา และเนื่องในวโรกาส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนพรรษา ๗๕ พรรษา ๑๒ สิงหามหาราชินี และ สำนักงานที่ดินอำเภอท่ายาง ได้ดำเนินการด้านหลักฐานโอนเป็นในนามของมูลนิธิฯ เรียบร้อยแล้วและปัจจุบัน มีพื้นที่โครงการรวมทั้งสิ้น ๑,๓๗๑ ไร่

วัตถุประสงค์โครงการ :

- เพื่อให้บรรลุพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการควบคุม ดูแล ป้องกันราษฎรบุกรุกที่ดิน/ทำลายต้นไม้ และดำเนินการปลูกต้นไม้ เพื่อจัดทำเป็นสวนป่า ในที่ดินของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ บ้านท่ากระทุ่ม ตำบลกลัดหลวง อำเภอ ท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ในที่ดิน จำนวน ๓ แปลง รวมเนื้อที่ ๑,๓๗๑ ไร่ ตามภารกิจที่ได้รับมอบ ดังนี้

  • ควบคุม ดูแล ป้องกันราษฎรบุกรุกที่ดินของมูลนิธิฯ และทำลายต้นไม้
  • ดำเนินการปลูกต้นไม้ เพื่อจัดทำเป็นสวนป่าและแหล่งศึกษาพันธุ์ไม้
  • การดูแล บำรุงรักษา ฟื้นฟู ต้นไม้ที่มีอยู่เดิมและต้นไม้ที่ปลูกขึ้นใหม่ ให้เจริญเติบโต แข็งแรง อย่างต่อเนื่อง และมีสวนป่าที่สมบูรณ์ต่อไป

- ดำเนินการจัดพื้นที่โครงการฯ ให้เป็นแหล่งศึกษาพันธุ์ไม้ และเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า

- ปัจจุบันภายในพื้นที่โครงการ ฯ ได้เป็นป่าเบื้องต้นระดับหนึ่ง และมีสัตว์ป่าตามธรรมชาติ บางชนิดเข้ามาอยู่อาศัยแล้ว จึงมีเป้าหมายให้จัดพื้นที่เป็น “แหล่งศึกษาพันธุ์ไม้” เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาพันธุ์ไม้ ชนิดต่างๆ แก่นักเรียน นักศึกษา ประชาชน และผู้ที่ สนใจทั่วไป ในการศึกษาหาความรู้พันธุ์ไม้ประเภทต่างๆ อีกทั้งจัดเป็น “เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า” เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าต่อไป

ผลการดำเนินการ :

  • กิจกรรมการให้ความรู้ในการร่วมกันกับป่าไม้ ได้แก่ การปลูกพืชสมุนไพร การปลูกผักสวนครัว
  • กิจกรรมการปลูกป่า/สร้างจิตสำนึกในการรักป่า ได้แก่ การเดินศึกษาธรรมชาติในพื้นที่
  • กิจกรรมปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการพังทลายของดินและรักษาความชุ่มชื้นของป่า


ติดต่อสถานี
-

สำนักงานสถานีเกษตร
โทร : -

สำหรับจองที่พัก
โทร : -

ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว
โทร : -