๒๑ กันยายน ๒๕๖๗

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ อำเภอเมือง

๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๓๓

" ในการส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงสัตว์ นั้น จะต้องแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ หนึ่งสำหรับคนเลี้ยงจริงจัง ไปซื้ออาหารและอีกส่วนหนึ่งสำหรับชาวบ้านแท้ๆในขั้นต่ำกว่ามันต้องมีนะ ถ้าเราคิดจะเลี้ยงชั้นสูงตลอดเวลาชาวบ้านเขาสู้ไม่ไหวถ้ามีอะไรผิดปกติไปหน่อยจะล่มจมเป็นหนี้ เป็นหนี้แล้วเสร็จเลยปีหนึ่งก็ปลดหนี้เขาไม่ได้ แต่ถ้าแจกชาวบ้านที่พื้นๆต้องให้อะไรที่ง่ายที่สุดเพราะอันตรายเรื่องทางเศรษฐกิจ ถ้าสมมุติชาวบ้านเป็นหนี้ สมัยนี้ชอบเป็นหนี้ทางราชการก็ชอบส่งเสริมให้เป็นหนี้เพราะบอกว่าเป็นหนี้นี่ดีโดยมากเป็นเศรษฐกิจสมัยใหม่ ต้องเป็นหนี้ถึงจะดีเพราะว่าหมายถึงลงทุนได้มาก เมื่อลงทุนมากก็ได้เงินมากแต่ถ้าลงทุนมากมีปริมาณมากได้ราคาก็ตกก็กลายเป็นหนี้อันนี้ยุ่งที่สุด อันพูดอาจจะไม่สมัยใหม่เหมือนโบราณเหมือนคนถอยหลังเข้าคลอง แต่ว่าความเป็นจริงถ้าหากว่าเราส่งเสริมให้ทำอะไรที่ใช้เทคโนโลยีมันต้องเป็นหนี้ เมื่อเป็นหนี้แล้วถ้าแกได้กำไรมา แกไม่ไปใช้หนี้แกฉลองเมื่อฉลองแล้วอันนี้ไม่เป็นไร ธนาคารเขาให้ดอกเบี้ยก็ให้ผลสุดท้ายก็พอกไปพอกมาแล้วรัฐบาลก็ต้องยกหนี้ให้ หรือต้องปลดหนี้ให้เสียงบประมาณเป็นพันล้าน คงได้เผชิญปัญหานี้ เพราะเห็นว่าเราส่งเสริมให้ใช้วิทยาการสูง จะดูเหมือนกับทารุณว่า ไม่ให้วิทยาการสูงกับชาวบ้าน แต่ว่าเพราะว่าต้องให้วิทยาการสูงพอสมควรค่อย ๆ เพิ่มขึ้นไปอันนี้ขอเตือนอยู่นิด สมมุติว่าไอ้ตัวนี้มันดีมันตกมันเลี้ยงง่ายก็น่าจะผสมพันธุ์แท้ไว้มากๆ เพราะถ้าไปผสมกับตัวอื่นที่ได้ผลดีเหมือนกันดีกว่า เลี้ยงง่ายก็จึงแจกส่วนเรื่องไก่แม้แต่ไก่บ้านก็ตายแต่ไก่บ้านโดยมากเมื่อก่อนนี้ตายก็ช่างมันเดียวนี้เพราะว่าได้เทคโนโลยี ตายตูมมันเสียทำอะไรที่มันแข็งแรงกว่าก็เป็ด เป็ดนี้ดีไข่ก็ใช้ได้ดีแต่ถ้าไปถามเขาว่า โน..โน...โน.. เขาไม่เอาเขาไม่ชอบกินไข่เป็ด "


สถานที่ : ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ อำเภอเมือง