โครงการ อาคารมหิดลวงศานุสรณ์
จังหวัด กรุงเทพมหานคร
ที่มาของการต่อยอดโครงการ :
การป้องกันและต่อต้านการแพร่ระบาดของวัณโรคในประเทศไทยมีความสำคัญขึ้นตั้งแต่สมัยที่สมเด็จพระราชบิดาเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ “ พระบิดาแห่งวงการแพทย์ไทย ” ทรงให้ความสนพระทัยเรื่องวัณโรค โดยได้ทรงนิพนธ์เอกสารเรื่อง “ทูเบอร์คูโลสิส” เพื่อเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับโรควัณโรค ในปี พ.ศ. ๒๔๙๓ กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขได้ทำความตกลงร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกและกองทุนสงเคราะห์เด็กแห่งสหประชาชาติหรือยูนิเซฟในด้านความร่วมมือเพื่อการป้องกันการระบาดของวัณโรคในประเทศไทย และได้มอบหมายให้สถานเสาวภาหรือกองวิทยาศาสตร์ สภากาชาดไทยในสมัยนั้นเป็นผู้ดำเนินการผลิตวัคซีนบีซีจีสำหรับฉีดป้องกันวัณโรค ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๔
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาทแก่สภากาชาดไทย เพื่อให้สร้างตึกขึ้นในบริเวณสถานเสาวภาสำหรับเป็นสถานที่ค้นคว้าและทดลองผลิตวัคซีนบีซีจีขึ้นใช้ภายในประเทศ โดยสภากาชาดไทยได้ตั้งให้เหรัญญิกสภากาชาดไทยเป็นประธานกรรมการพร้อมด้วยพระยาพิพัฒนธนาการ ม.จ. สมัยเฉลิม กฤดากร และนายแพทย์ เฉลิม บูรณะนนท์ เป็นกรรมการจัดสร้างตึกนี้ให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ ม.จ. สมัยเฉลิม เป็นสถาปนิกผู้เขียนแปลนทูลเกล้าถวายซึ่งได้มีการแก้ไขให้ต้องกับพระราชประสงค์ ส่วนแปลนภายในตึกอันจะเป็นห้องผลิตได้ส่งไปประเทศเดนมาร์ค เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตตรวจให้ถูกต้องแล้วจึงลงมือสร้าง มีพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ และตึกสร้างเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ ซึ่งได้โปรดเกล้าพระราชทานนามว่า” ตึกมหิดลวงศานุสรณ์ “
กองทุนสงเคราะห์เด็กแห่งสหประชาชาติหรือยูนิเซฟ ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาตรวจห้องทดลองในตึกมหิดลวงศานุสรณ์เมื่อวันที่ ๑๗-๒๒ มีนาคม ๒๔๙๖ และส่ง ผู้ชำนาญการผลิตจากองค์การอนามัยโลกมาช่วยทำการผลิตวัคซีนบีซีจีที่สถานเสาวภาเป็นเวลา ๓ เดือน ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ติดต่อขอทุนศึกษาสำหรับนายแพทย์ในกองวิทยาศาสตร์ สภากาชาดไทยไปฝึกฝนการผลิตวัคซีนบีซีจี ณ ต่างประเทศอีกหนึ่งนาย กิจการข้างต้นจึงได้ลุล่วงมาถึงความสำเร็จ
ในวันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๖ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้เสด็จพระราชดำเนินจากพระที่นั่งอัมพรสถานมายังสถานเสาวภา เวลา ๑๗.๐๐ น. เพื่อเปิดตึกมหิดลวงศานุสรณ์ ในวันนั้นได้มีผู้เฝ้ารอรับเสด็จเป็นจำนวนมากทั้งจากกระทรวงสาธารณสุข เช่น อธิบดีกรมอนามัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ และจากกระทรวงวัฒนธรรม รวมทั้งทูตานุทูตและเจ้าหน้าที่สถานกงสุลจากประเทศต่างๆ ผู้แทนจากองค์การอนามัยโลก และกองทุนสงเคราะห์เด็กแห่งสหประชาชาติมาร่วมในพิธีครั้งนั้นด้วย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชได้ทรงประกอบพิธีเปิดตึกมหิดลวงศานุสรณ์เพื่อเป็นสิริมงคลแด่สถานเสาวภา สภากาชาดไทย และเป็นคุณประโยชน์ต่อปวงชนในดินแดนไทยสืบไป พระบาทพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงรับกุญแจซึ่งผู้อำนวยการกองวิทยาศาสตร์ในขณะนั้นได้ทูลเกล้าถวายแล้วทรงไขเปิดตึกมหิดลวงศานุสรณ์ และเสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จเข้าสู่ภายในตึกมหิดลวงศา
ประเภทโครงการ : โครงการพัฒนาด้านสาธารณสุข