โครงการ สถาบันราชประชาสมาสัย
จังหวัด สมุทรปราการ
ที่มาของการต่อยอดโครงการ :
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในฐานะพระบิดาของปวงชน โดยตั้งพระทัยมั่นที่จะพระราชทานสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตที่ดีแก่พสกนิกร ผู้ใดจะยากดีมีจน อยู่ในเมืองหรือชนบท หรือจะเป็นชนกลุ่มน้อย หรือจะนับถือศาสนาความเชื่อใด ล้วนได้รับพระมหากรุณาธิคุณโดยทั่วหน้า ซึ่งปรากฏเป็นบริการสาธารณะต่างๆเพื่อมวลชน ทั้งด้านอาหาร น้ำดื่มน้ำใช้ การศึกษา การทำมาหากินเลี้ยงชีพ และการสาธารณสุข
บริการสาธารณสุขด้านการแพทย์และสุขอนามัยสำหรับประชาชนทั่วไปทั้งประเทศเริ่มมาตั้งแต่ระยะแรกๆของรัชสมัยของพระองค์ท่าน งานด้านนี้ก็เหมือนงานพัฒนาด้านอื่นๆที่ทรงทำ คือมีการออกแบบและวางแผนเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแนวคิด การเตรียมการหรือการลงมือปฏิบัติงาน ล้วนเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่
ขอบข่ายของความสนพระราชหฤทัยด้านงานสาธารณสุขเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดีถ้วนหน้านั้นกว้างขวางและครอบคลุม ทรงเริ่มที่ราษฎรผู้ยากจนเดือดร้อนหรือด้อยโอกาสในท้องที่ชนบทและบริเวณชายแดนห่างไกลของประเทศก่อน เพราะพวกเขาไม่สามารถหรือยากจนเกินกว่าจะไปขอรับการรักษาเป็นกิจจะลักษณะจากหน่วยงานสาธารณสุขใดๆของรัฐได้ และจำนวนไม่น้อยไม่มีความรู้แม้แต่ว่า ทำอย่างไรจึงจะติดต่อขอรับการบริการได้ โครงการด้านสุขภาพหลายๆโครงการของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรช่วยบรรเทาทุกข์เข็ญของราษฎรเหล่านี้ เป็นทั้งความช่วยเหลือแบบทันทีหรือแบบระยะสั้น และมีที่เป็นความช่วยเหลือระยะยาวด้วย
รูปแบบของความช่วยเหลือแบบทันทีเป็นงานของหน่วยการแพทย์เคลื่อนที่ส่วนพระองค์ที่ให้บริการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ บริการทันตกรรม และบริการด้านสุขภาพอื่นๆ ณ บริเวณนั้นๆเลยที่มีราษฎรประสบปัญหาสุขภาพหรือเจ็บไข้ได้ป่วย คณะแพทย์ ทันตแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเหล่านี้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรทั่วทุกแห่งในชนบทห่างไกล คณะแพทย์ให้การรักษาแก่ประชาชน ตลอดจนส่งผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลไปรักษาต่อตามโรงพยาบาลต่างๆ นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าของพระตำหนักที่ประทับในภูมิภาคต่างๆ ก็มีหน่วยแพทย์หน้าวังให้การรักษาพยาบาลแก่คนไข้ โดยคนไข้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีกทั้งยังมีหน่วยแพทย์ทางน้ำที่ใช้เรือชื่อ “เวชพาห์น” (พ.ศ. ๒๕๑๓) ให้การรักษาแบบเดียวกันนี้แก่ราษฎรที่อาศัยอยู่ตามสองฝั่งแม่น้ำหรือเขตอื่นๆที่เรือสามารถแล่นถึง บริการเหล่านี้เป็นบริการฟรีทั้งหมด พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงรับพระราชภาระค่าใช้จ่ายของคนไข้ในโรงพยาบาลด้วย ส่วนครอบครัวผู้ป่วยที่เดือดร้อน ก็ทรงรับใช้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์เช่นกัน ในปีหนึ่งๆมีคนไข้เป็นเรือนแสนที่ได้รับพระเมตตาเช่นนี้จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ในช่วงต้นรัชกาล เกิดโรคระบาดร้ายแรง คือ อหิวาตกโรค วัณโรค โรคเรื้อน และโรคโปลิโอ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนหรือทำให้พิการเป็นจำนวนมาก โครงการพระราชดำริด้านการแพทย์และสาธารณสุขจึงเริ่มมีมาตั้งแต่ปี ๒๔๙๓ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่ผู้ป่วย โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้สภากาชาดไทย ทำการศึกษาและพัฒนาน้ำเกลือมีคุณภาพซึ่งผู้ป่วยเป็นอหิวาตกโรคจำเป็นต้องใช้ ในปี ๒๔๙๖ ทรงให้ผลิตวัคซีนบี.ซี.จี.เอง สำหรับป้องกันวัคโรค และสำหรับโรคโปลิโอ โปรดเกล้าฯให้มีสถานที่รักษาผู้ป่วยด้วยวิธีทางกายภาพบำบัด เป็นศูนย์ฟื้นฟูที่มีอุปกรณ์ครบครัน ส่วนด้านโรคเรื้อนนั้นพระราชทานพระราชดำริในการควบคุมโรค และโปรดเกล้าฯให้สถาบันราชประชาสมาสัย(พ.ศ. ๒๔๙๓) ซึ่งต่อมาเป็นมูลนิธิราชประชาสมาสัย (พ.ศ. ๒๕๐๓) ให้การรักษาและช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเรื้อน ตลอดจนปฏิบัติงานค้นคว้าวิจัยและเผยแพร่ความรู้เรื่องการป้องกันและรักษาโรคเรื้อน รวมกระทั่งถึงให้บริการด้านการฟื้นฟูร่างกายและการฝึกอาชีพ การควบคุมโรคเรื้อนไม่ให้ระบาดประสบความสำเร็จด้วยดี ในปัจจุบันอัตราผู้ป่วยจึงเป็นเพียง ๐.๑๑ เท่านั้นต่อจำนวนประชากร ๑๐,๐๐๐ คน และโรคระบาดร้ายแรงอื่นๆก็ไม่เป็นปัญหาสาธารณสุขอีกต่อไป
ยังมีมูลนิธิที่สามารถให้ความช่วยเหลือแบบเร่งด่วนแก่ราษฎรในยามเดือดร้อนหนักคือมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมป์ (พ.ศ. ๒๕๐๐) ซึ่งทำงานกู้สาธารณภัยและ ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อเกิดภัยหายนะจากธรรมชาติ งานสำคัญที่มูลนิธิฯได้ทำคือ การช่วยเหลือผู้ประสบวิบัติภัยที่จังหวัดชุมพร (พ.ศ. ๒๕๐๕) และในเขตภาคใต้ตอนกลาง (พ.ศ. ๒๕๔๗) ซึ่งเป็นความหายนะทั้งชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก ในยามวิกฤตเช่นนี้ มูลนิธิฯเร่งส่งสิ่งที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอด ให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติทันที เป็นประเภทอาหาร น้ำดื่ม เสื้อผ้า ผ้าห่ม มุ้ง ยา และอื่นๆที่ขาดแคลนเร่งด่วน ปัจจุบันมูลนิธิราชประชานุเคราะห์มีความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทันทีแก่ผู้เคราะห์ร้ายตามความจำเป็น ในแต่ละสภาพการณ์ ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ปี๒๕๕๓ ที่เพิ่งผ่านมานี้ เกิดน้ำท่วมหนักเป็นบริเวณกว้างใหญ่ เกือบทั่วประเทศ ความช่วยเหลือที่ไปถึงประชาชนก่อนหน้าหน่วยงานใดๆทั้งหมด คือสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
มูลนิธิชัยพัฒนาให้ความช่วยเหลือประชาชนในอีกรูปแบบหนึ่งคือ ให้เครื่องมือประกอบอาชีพแก่ราษฎรที่ประสบภัย เพื่อให้พวกเขาสามารถทำมาหาเลี้ยงชีพต่อไปได้ ส่วนผู้ที่ป่วยหรือบาดเจ็บเพราะทำงานรับใช้ชาติทั้งข้าราชการทหารและพลเรือน ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเช่นกัน โปรดเกล้าฯให้มูลนิธิสายใจไทยเข้าไปดูแลช่วยเหลือ ทรงพระเมตตาพระราชทานความช่วยเหลือและขวัญกำลังใจแก่ทั้งผู้บาดเจ็บและครอบครัวของเขาด้วย
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงให้ความสำคัญกับการสาธาณสุขระยะยาวด้วย นอกจากพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์สำหรับงานด้านการศึกษาค้นคว้าและวิจัยแล้ว ยังโปรดเกล้าฯให้มีการสร้างบุคคลากรทางการแพทย์ทั้งด้านการรักษาพยาบาลและทันตกรรม มูลนิธิอานันทมหิดลในพระราชูปถัมภ์ตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ เป็นต้นมา ให้ทุนการศึกษาบัณฑิตแพทย์ที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยมเพื่อศึกษาต่อยังต่างประเทศใน ๒ สาขาวิชา คือ แพทยศาสตร์และทันตแพทย์ศาสตร์ ทั้งนี้เพื่อสร้างผู้นำที่จะได้กลับมาทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติ และช่วยเหลือประชาชนต่อไป
ในระดับหมู่บ้าน งานส่งเสริมสุขภาพอนามัยและป้องกันโรคในระยะยาวเป็นการฝึกอบรมราษฎรอาสาสมัครตามหมู่บ้านยากจนห่างไกลต่างๆ ให้มีความรู้เรื่องการสาธารณสุขมูลฐาน การดำเนินการครั้งแรกคือในปี ๒๕๒๔ ที่จังหวัดเชียงใหม่ “หมอหมู่บ้าน”นำความรู้เช่นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การป้องกันโรคเบื้องต้นอย่างง่ายๆ โภชนาการที่ดี วิธีติดต่อกับหน่วยราชการเพื่อขอรับการรักษา เป็นต้น ถ่ายทอดให้ประชาชนในท้องถิ่นของตนเอง เป็นการสอนให้รู้จักระวังรักษาสุขภาพด้วยตนเอง
สมเด็จพระบรมราชชนกของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรคือสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช ทรงเป็นพระราชบิดาแห่งการแพทย์และการสาธารณสุขของไทย เพราะได้ทรงงานบุกเบิกด้านต่างๆมากมาย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงเจริญรอยตามแบบอย่างของสมเด็จพระราชบิดา โดยทรงให้งานด้านการแพทย์และสาธารณสุขนี้เป็นงานสำคัญระดับชาติ เพราะทำให้ราษฎรมีสุขภาพดีและมีสุข ในปัจจุบันด้วยพระชันษาที่สูงขึ้น และพระพลานามัยที่ไม่แข็งแรงเหมือนเดิม ทำให้ไม่ทรงสามารถอุทิศพระวรกายได้มากเท่าก่อน แต่โครงการต่างๆที่ทรงริเริ่มหรือพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ก็ได้โปรดเกล้าฯให้พระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่นสืบสานพระราชปณิธานและพระราชกิจต่อไปได้ด้วยดี เนื่องจากได้ทรงพระราชทานพระราชวินิจฉัยเป็นแนวทางปฏิบัติไว้เป็นอย่างดีแล้ว ฉะนั้นจึงเท่ากับว่าพระองค์ท่านได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจโดยสมบูรณ์ และได้ทรงกระทำทุกอย่างที่นำประโยชน์สุขสวัสดีให้แก่อาณาประชาราษฎร์แล้ว
ประเภทโครงการ : โครงการพัฒนาด้านสาธารณสุข