๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

โครงการ บำบัดน้ำเสียบึงพระราม ๙

ตำบล วังทองหลาง อำเภอ เขตบางกะปิ จังหวัด กรุงเทพมหานคร


ที่มาของการต่อยอดโครงการ :

“บึงพระราม ๙” จัดได้ว่าเป็นบึงขนาดใหญ่อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร มีเนื้อที่ประมาณ ๑๓๐ ไร่ และมีความยาวถึง ๑,๓๐๐ เมตร มีปัญหาภาวะมลพิษน้ำเน่าเสียอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากคลองลาดพร้าวเป็นคลองระบายน้ำหลักคลองหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ซึ่งรับน้ำเสียมาจากแหล่งชุมชนที่อยู่สองฝั่งคลอง ดังนั้นในปี ๒๕๓๓ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชมีพระราชดำริ ว่า “การใช้วิธีทางธรรมชาติแต่เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอในการบำบัดน้ำเสียให้ดีขึ้น จำเป็นต้องใช้เครื่องเติมอากาศลงไปในน้ำ โดยทำเป็นระบบสระเติมอากาศ (Aerated Lagoon)”

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชได้พระราชทานพระราชดำริ ในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียในเขตกรุงเทพมหานคร ด้วยวิธีการทางธรรมชาติผสมผสานกับการใช้เครื่องกลเติมอากาศโดยให้หน่วยงานกรมชลประทาน สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กรมที่ดิน รัฐบาลญี่ปุ่นและกรุงเทพมหานครร่วมมือกันดำเนินโครงการฯ จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ.๒๕๓๒

โรงบำบัดน้ำเสียบึงพระราม ๙ เป็นโรงบำบัดน้ำเสียแบบสระเติมอากาศ (Aerated Lagoon)โดยใช้ เครื่องเติมอากาศ แบบทุ่นลอย ขนาด ๑๑ กิโลวัตต์ จำนวน ๓ เครื่อง น้ำเสียจากคลองลาดพร้าว ถูกสูบเข้าบ่อเติมอากาศ (Aeration Pond ) และได้รับเพิ่มออกชิเจน โดยเครื่องเติมอากาศซึ่งทำงานคราวละเครื่อง (จากที่มีอยู่ ๓ เครื่อง) ตลอด ๒๔ ชั่วโมง สลับกันไปเป็นเวลาประมาณ ๑๖ ชั่วโมง เพื่อให้เกิดการย่อยสลายสารอินทรีย์ที่ปนเปื้อนในน้ำเสียด้วยแบคทีเรีย จากนั้นจึงไหลถ่ายเทไปยังบ่อตกตะกอนซึ่งเป็นบ่อกึ่งไร้สารอากาศ ( Facultative Pond)และเก็บกักในบ่อนี้นานประมาณ ๒ วันแล้วไหลเข้าสู่บ่อปรับสภาพ (Maturation Pond) ก่อนปล่อยลงสู่คลองลาดพร้าวในอัตราเฉลี่ยของการบำบัดได้ ๒๘,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วัน

ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ สำนักการระบายน้ำได้จัดทำโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสียของโรงบำบัดน้ำเสียบึงพระราม ๙ เพื่อให้สามารถรับสภาพความเน่าเสียของน้ำในคลองลาดพร้าวได้มากขึ้นเป็น ๑๐ เท่า คือสามารถบำบัดได้ถึง ๒๕๕,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วัน โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดสูบ ๖๐ ลูกบาศก์เมตร/นาที เพิ่ม ๓ เครื่อง และติดตั้งเครื่องเติมอากาศเพิ่มอีก ๔ เครื่อง และเนื่อง จากโครงการก่อสร้างทางด่วนพิเศษสายรามอินทรา - อาจณรงค์ พาดผ่านบริเวณบ่อสูบน้ำและอาคาร สำนักงานโรงบำบัดน้ำเสียบึงพระราม ๙ จึงต้องมีการสร้างบ่อสูบน้ำเสีย และอาคารสำนักงานใหม่ ซึ่งขณะนี้ก็ได้ทำการปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว

อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดทำระบบบำบัดน้ำเสียบึงพระราม ๙ ตามระบบสระเติมอากาศ (Aerated Lagoon) ประกอบด้วย บ่อบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ (บ่อติดตั้งเครื่องจักรกลเติมอากาศ) และบ่อบำบัดน้ำเสียแบบกึ่งไร้อากาศ (บ่อตกตะกอนและกำจัดตะกอน)ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลาประมาณ ๒๐ ชั่วโมง

ปัจจุบัน นอกจากโครงการบึงพระราม ๙ จะใช้ประโยชน์ในด้านการบำบัดน้ำเสียจาก คลองลาดพร้าวตามพระราชดำริแล้ว บริเวณพื้นที่โดยรอบบึงยังเป็นที่อยู่อาศัย ของชุมชนประมาณ ๕๐๐ หลังคาเรือน ซึ่งได้มีส่วนร่วมใช้ประโยชน์จากบึงน้ำแห่งนี้ในชีวิตประวัน ทั้งในด้านการใช้น้ำจากบึงในช่วงปลายซึ่งผ่านกระบวนการบำบัด จนมีสภาพที่ใสสะอาด ปราศจากความสกปรกเน่าเหม็น และไม่เป็นที่น่ารังเกียจแต่ประการใด เพื่อใช้สำหรับการชำระล้างทำความสะอาด และยังใช้เป็นแหล่งในการจับสัตว์น้ำอาทิ เช่น ปลา กุ้ง ฯลฯ ที่มีอยู่ในบึงตามธรรมชาติอีกด้วย

ในปี พ.ศ. ๒๕๓๗ สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการพัฒนาสภาพสิ่งแวดล้อมของบึงพระราม ๙ ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสีย โดยการจัดสร้างถนนแอสฟัลต์ผสมร้อนพร้อมไหล่ทางลาดยาง และติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง โดยรอบบริเวณบึงทั้งหมด เพื่อทำให้ชุมชนบริเวณโดยรอบบึงพระราม ๙ ซึ่งเป็น พื้นที่ในโครงการพระราชดำรินี้ ได้รับการพัฒนาสภาพแวดล้อมให้มีความสวยงาม และสะดวกปลอดภัย สำหรับชุมชนผู้อยู่อาศัย และสำหรับผู้ที่จะเข้าใช้ประโยชน์จาก บึงพระราม ๙ ในอนาคต 

ประโยชน์ของโครงการ : บำบัดน้ำเสียให้มีคุณภาพดีขึ้น จากเดิมค่า BOD ประมาณ ๑๙ มิลลิกรัมต่อลิตร เป็น ค่า BOD ประมาณ ๙ มิลลิกรัมต่อลิตร อันจะทำให้สิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบบึงพระราม ๙ มีคุณภาพที่ดีขึ้น 

ประเภทโครงการ : โครงการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม