
โครงการ อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร
อำเภอ ชะอำ จังหวัด เพชรบุรี

ที่มาของการต่อยอดโครงการ :
เมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๓๗ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชดำริ กับ นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการ กปร. ในขณะนั้น ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ให้จัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อทดลองปลูกและฟื้นฟูสภาพป่าชายเลน เพื่อให้ระบบนิเวศป่าชายเลนกลับคืนสู่ธรรมชาติ จากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินทรงปลูกป่าชายเลนชนิดต่างๆ ที่คลองบางตราใหญ่และคลองบางตราน้อย
เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๓๗ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชดำริเพิ่มเติมกับ พ.ต.อ.ดิเรก พงษ์ภมร ผู้กำกับการ ๑ กองบังคับการฝึกพิเศษ/ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริในขณะนั้น ให้ดำเนินการศึกษาหาวิธีที่จะดูแลรักษาให้ต้นไม้ชายเลนที่ปลูกไว้นี้ให้อยู่รอด และให้ดำเนินการปลูกป่าชายเลนต่อไปในพื้นที่ที่เหลืออยู่ทั้งสองแห่งที่บริเวณคลองบางตราใหญ่และคลองบางตราน้อย
เมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๑ ขณะที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ มาทรงจักรยานและทรงวิ่งออกกำลังพระวรกายบริเวณค่ายพระรามหก ได้ทอดพระเนตรสภาพดินและพื้นที่รกร้างที่มีคราบเกลือบนพื้นดิน ต่อมาได้พระราชทานพระราชดำริกับ ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ เลขาธิการคณะองคมนตรี ในขณะนั้น ให้หาวิธีการฟื้นฟูป่าชายเลนและฟื้นฟูดินเสื่อมโทรมดังกล่าว ให้เป็นพื้นที่สีเขียวและมีความสวยงามตามธรรมชาติ เพื่อใช้เป็นพื้นที่นันทนาการและเป็นพื้นที่สำหรับศึกษาระบบนิเวศที่ได้ปรับตัวหลังจากมีการปรับปรุงพื้นที่แล้ว
ในปี ๒๕๔๓ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และมูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภา พัณณวดี ได้ร่วมกันจัดตั้งอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติ ณ ค่ายพระรามหก อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวาย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสเจริญพระชนมายุครบ ๔๘ พรรษา ในปี ๒๕๔๖ และได้รับพระราชทานนามว่า “อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร”
เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๔ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงงานฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ในขณะนั้น ได้กราบบังคมทูลเกี่ยวกับการดำเนินการจัดทำโครงการศูนย์พลังงาน โดยได้รับงบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ก่อสร้างศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมด้านการวิจัยและพัฒนาความรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน รวมถึงการเผยแพร่ความรู้ในรูปแบบการจัดค่ายฝึกอบรม การจัดนิทรรศการ การสาธิต และห้องสมุดพลังงาน
เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๕ มูลนิธิอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาให้อยู่ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๑ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร อย่างเป็นทางการ
วัตถุประสงค์ของโครงการ :
๑. ดำเนินการตามพระราชดำริ และเผยแพร่พระเกียรติคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๒. เพื่อฟื้นฟูและพัฒนาอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ให้มีระบบนิเวศที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และเป็นพื้นที่ตัวอย่างในการศึกษาให้แก่พื้นที่อื่นๆ
๓. เพื่อพัฒนาอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีความหลากหลายและมีความพร้อมในการดำเนินงานตามภารกิจ เพื่อเผยแพร่ความรู้ ส่งเสริมการศึกษาวิจัยและการพัฒนาต่อยอด รวมถึงเสริมสร้างจิตสำนึกด้านการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์พลังงาน และการใช้พลังงานทดแทน ให้กับหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนประชาชนทั่วไป ให้ได้รับความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของโครงการ :
๑. เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเป็นพื้นที่ตัวอย่างในการศึกษาและส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานทดแทน
๒. ทำให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้และฝึกอบรม ด้านการอนุรักษ์พลังงาน รวมถึงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
๓. ส่งเสริมชุมชนในท้องถิ่นให้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นการปลุกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการใช้พลังงานทดแทน
๔. ขยายเครือข่ายความร่วมมือด้านการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน ให้กว้างขวางมากขึ้น ทำให้การดำเนินงานตามภารกิจสำเร็จลุล่วงได้มากยิ่งขึ้น
ประเภทโครงการ : โครงการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม